หลังจากในปี 2023 เกาหลีเหนือได้ทดสอบอาวุธมากเป็นประวัติการณ์ รวมถึงขีปนาวุธข้ามทวีปที่คาดว่าอาจยิงไปได้ไกลถึงสหรัฐฯ และประสบความสำเร็จในการส่งดาวเทียมสอดแนมดวงแรกขึ้นสู่อวกาศไปเมื่อเดือน พ.ย. ที่ผ่านมา ล่าสุดโสมแดงออกมาประกาศว่า ในปี 2024 มีแผนจะส่งดาวเทียมสอดแนมขึ้นไปอีก 3 ดวง รวมถึงสร้างโดรนทหาร และเพิ่มคลังอาวุธนิวเคลียร์

สำนักข่าว KCNA ของรัฐเกาหลีเหนือรายงานว่า การตัดสินใจนี้เกิดขึ้นภายหลังการประชุมพรรคยาว 5 วัน ซึ่งมีผู้นำ คิม จองอึน เป็นประธาน

ปี 2023 มหาเศรษฐีโลกร่ำรวยเพิ่มขึ้นรวมกันกว่า 50 ล้านล้านบาท

“เนทันยาฮู” ชี้ พรมแดนกาซา-อียิปต์ ควรอยู่ใต้การควบคุมของอิสราเอล

ยูเครนเอาคืน ถล่มเมืองชายแดนรัสเซีย เสียชีวิต 21 ราย

KCNA ระบุว่า “ภารกิจในการปล่อยดาวเทียมสอดแนมเพิ่มเติมอีก 3 ดวงในปี 2024” เป็นหนึ่งในการตัดสินใจเชิงนโยบายที่สำคัญของเกาหลีเหนือในปี 2024

ในการประชุม คิมกล่าวว่า สหรัฐฯ กำลังทำให้สงครามเป็นสิ่งที่หลีกเลี่ยงไม่ได้ “เนื่องจากศัตรูเคลื่อนไหวอย่างบ้าบิ่นเพื่อบุกโจมตีเรา สงครามจึงสามารถปะทุขึ้นได้ทุกเมื่อบนคาบสมุทรเกาหลี”

ผู้นำคิมยังสั่งให้กองทัพเตรียมทำให้ดินแดนทั้งหมดของเกาหลีใต้สงบลง รวมถึงการใช้ระเบิดนิวเคลียร์หากจำเป็น เพื่อตอบสนองต่อการโจมตีใด ๆ

ผู้เชี่ยวชาญกล่าวว่า เกาหลีเหนือตั้งเป้าที่จะดำเนินนโยบายกดดันทางทหารต่อไปเพื่อพยายามเพิ่มอำนาจไว้พร้อมสำหรับการเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐฯ ในเดือน พ.ย. ซึ่งอดีตประธานาธิบดี โดนัลด์ ทรัมป์ กำลังพยายามกลับคืนสู่อำนาจ

เมื่อทรัมป์ดำรงตำแหน่งครั้งก่อน เขาได้จัดการประชุมสุดยอดสองครั้งกับคิม และพบปะกันที่เขตปลอดทหาร แต่พวกเขาก็ล้มเหลวในการสร้างความก้าวหน้าใด ๆ ที่เป็นรูปธรรม

ที่ผ่านมา คณะบริหารของประธานาธิบดี โจ ไบเดน ได้กระชับความสัมพันธ์ทางการเมืองและการทหารกับเกาหลีใต้ให้ลึกซึ้งยิ่งขึ้น และบังคับใช้มาตรการคว่ำบาตรใหม่ต่อเกาหลีเหนือ นอกจากนี้ สหรัฐฯ ยังได้ส่งเรือดำน้ำพลังงานนิวเคลียร์ไปประจำการในเกาหลีใต้ รวมถึงส่งเครื่องบินทิ้งระเบิดพิสัยไกลเข้าร่วมการฝึกซ้อมร่วมกับเกาหลีใต้และญี่ปุ่น

ลีฟ-เอริก อีสลีย์ ศาสตราจารย์ด้านการศึกษานานาชาติที่มหาวิทยาลัยสตรีอีฮวาในเกาหลีใต้ ให้ความเห็นว่า “เกาหลีเหนืออาจกำลังรอการเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐฯ เพื่อดูว่าการยั่วยุของตนจะซื้ออะไรได้บ้างในการบริหารครั้งต่อไป”

คิมกล่าวว่า เขาไม่สามารถเพิกเฉยต่อการเคลื่อนกำลังของสหรัฐฯ โดยอ้างว่าความเคลื่อนไหวดังกล่าวได้เปลี่ยนเกาหลีใต้ให้กลายเป็น “ฐานทัพและคลังแสงนิวเคลียร์” ของสหรัฐฯ

“หากเรามองอย่างใกล้ชิดถึงปฏิบัติการเผชิญหน้าทางทหารของกองกำลังศัตรู คำว่า ‘สงคราม’ ได้กลายเป็นความจริงที่ยิ่งกว่าจริง และไม่ใช่แนวคิดที่เป็นแค่นามธรรมอีกต่อไป” คิมกล่าว

คิมกล่าวว่าเขาไม่มีทางเลือกนอกจากต้องมุ่งหน้าความพยายามด้านนิวเคลียร์ และพัฒนาความสัมพันธ์ที่ลึกซึ้งยิ่งขึ้นกับประเทศอื่น ๆ ที่ต่อต้านสหรัฐฯ โดยขณะนี้เกาหลีเหนือมีความสัมพันธ์ลึกซึ้งกับทั้งจีนและรัสเซีย

ในตอนท้ายของการประชุมพรรค คิมกล่าวว่า เขาจะไม่แสวงหาการปรองดองและความร่วมมือกับเกาหลีใต้อีกต่อไป โดยบอกว่า “ยังคงมีสถานการณ์วิกฤตซึ่งควบคุมไม่ได้”

เรียบเรียงจาก Al Jazeeraคำพูดจาก สล็อตทรูวอเลท

อวสานเลี้ยงปีใหม่! ลูกจ้างตีกันเจ้านายสั่งปิดงาน

12 บทสวดมนต์ข้ามปี ส่งท้ายปีเก่าต้อนรับปีใหม่ 2567

สรุป #เบียร์เดอะวอยซ์ ปมร้อนส่งท้ายปี 2566 ถูกโยงดราม่าแอบแซ่บ!